รีวิวการฝึกงานกับบานาน่า โคดดิ้ง โดย ลิลลี่ (วิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

แนะนำตัวเองหน่อยจ้า 

สวัสดีค่ะ เราชื่อ ลิลลี่ เป็นนักศึกษาภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะมาแชร์ประสบการณ์จากการได้ฝึกงาน-สหกิจตลอดระยะเวลา 6 เดือน ที่บริษัทบานาน่าโคดดิ้งค่ะ 

เข้ามาฝึกงานกับบานาน่า โคดดิ้ง ได้ยังไงกันนะ ? 

ก่อนอื่นทางภาควิชาของเราจะมีให้เลือกแผนการฝึกงาน โดยจะมีแผนฝึกงานปกติระยะเวลา 2 เดือน กับแผนสหกิจระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งเราได้เลือกเป็นแผนสหกิจระยะเวลา 6 เดือนค่ะ จากนั้นทางภาควิชาจะให้เลือกบริษัท แล้วจะติดต่อไปยังบริษัทที่เราเลือกไว้ให้ค่ะ หลังจากนั้นทางบริษัทก็ได้ติดต่อมานัดวันสัมภาษณ์ค่ะ วันสัมภาษณ์ก็มีตื่นเต้นหน่อย ๆ พี่ ๆ เค้าก็จะถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับเรา ถามว่าเคยทำอะไรมาบ้าง หลังสัมภาษณ์เสร็จไม่กี่วันหลังจากนั้น ก็ได้รับการติดต่อมาว่าผ่านสัมภาษณ์ค่ะ โดยจะเริ่มฝึกวันที่ 4 เมษายน 2565 แต่แล้วไม่กี่วันก่อนจะถึงวันแรกของการฝึกงานโน๊ตบุ๊คของเราก็เกิดอาการต่อต้านขึ้นมาค่ะ ( เมนบอร์ดพัง 5555 ) ทำให้ต้องรีบเอาไปส่งศูนย์ แต่เนื่องจากประเมินว่าต้องใช้เวลาซ่อมนานพอสมควร ไม่น่าจะทันวันฝึกงานช่วงแรกๆ จึงได้ไปแจ้งพี่ HR ไว้ก่อนว่าโน๊ตบุ๊คพัง เนื่องจากก่อนหน้านี้พี่ถามไว้ว่ามีโน๊ตบุ๊คส่วนตัวรึเปล่า โดยทางบริษัทก็มีแมคบุ๊คให้ยืมใช้ก่อนระหว่างรอโน๊ตบุ๊คซ่อมเสร็จค่ะ ( ขอบคุณค่ะ (T ▽ T) ) 

ช่วยเล่าประสบการณ์การฝึกงานหน่อย 

เมื่อถึงวันแรกที่ได้มาฝึกงาน พี่ ๆ จะแจ้งรายละเอียด กฎระเบียบต่างๆ แล้วก็สอน set up โปรแกรมต่าง ๆ ที่จะใช้ในการฝึกงานค่ะ และในช่วงประมาณ 2 อาทิตย์แรก จะมีการ Bootcamp ก่อน โดยจะเป็นการสอนเกี่ยวกับพื้นฐานต่าง ๆ ที่ต้องใช้ เช่น Ruby, Ruby on Rails, Rspec, HTML, CSS, JavaScript, Typescript, Angular, Azure DevOps, Git, Heroku, Banana Testing และอีกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งในแต่ละเรื่องจะมีพี่ ๆ คอยสลับกันมาสอน และหลังจากเรียนเสร็จในแต่ละเรื่อง ก็จะมีการบ้านให้กลับไปฝึกทำเป็นการทบทวนอีกที 

อวดโปรเจคที่ทำหน่อยเร็ว ! 

พอจบช่วง Bootcamp พี่จะถามว่ามีโปรเจคอะไรที่อยากทำไหม สุดท้ายก็ได้เป็นโปรเจค Lost N’ Found ที่ได้เสนอร่วมกับเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นเว็บแอปพลิเคชันที่เอาไว้ให้คนมาโพสต์ตามหาของหายหรือโพสต์เจอของหาย โดยจะมีพี่ Project Manager คอยมอบหมายงานให้ และจะมีการประชุม Sprint ประจำสัปดาห์ กับประชุมประจำวัน เพื่ออัปเดตความคืบหน้าต่าง ๆ ของงาน ซึ่งในช่วงการทำโปรเจคนี้จะได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างมากมายเลย และหลังจากเสร็จโปรเจค Lost N’ Found ก็จะได้ไปทำงานของลูกค้าจริง ๆ ค่ะ 

บรรยากาศการทำงานเป็นยังไงบ้าง ? 

ในเรื่องของบรรยากาศในการทำงานของที่นี่ รู้สึกสบาย พี่ ๆ เป็นกันเอง ใจดีมาก ๆ ไม่ได้เคร่งมาก ทำให้ไม่ค่อยเครียดหรือกดดัน และยังมีน้ำกับขนมให้กินด้วย อีกทั้งยังมีเจ้าพวกแมวแสนน่ารัก น้อง ๆ ชอบมาอ้อน ๆ เป็นมิตร เล่นด้วยได้ น่ารักมากกก ( ถ้าน้องไม่กางเล็บ 55 ) และในบางครั้งบริษัทจะมีพาไปกินเลี้ยงกันทั้งบริษัทตามแต่ละโอกาสต่าง ๆ 

ได้รับอะไรจากที่นี่กลับไปบ้างนะ ?  

หลังจากที่ได้ฝึกมาเป็นระยะเวลา 6 เดือน ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เยอะแยะเลย ทั้งทักษะการเขียนโปรแกรมใหม่ ๆ เพิ่มเติม วิธีแก้ปัญหาต่าง ๆ ทักษะการทำงานเป็นทีม มีความรับผิดชอบและมีระเบียบในการทำงานมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับประสบการณ์ดี ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่คอยช่วยเหลือ ดูแล แนะนำ และให้คำปรึกษามาตลอดระยะเวลา 6 เดือนนี้ ทำให้ได้เรียนรู้ และได้รับประสบการณ์ในการทำงานที่ดีมากมายจริง ๆ ขอบคุณมากค่ะ 

รีวิวการฝึกงานกับบานาน่า โคดดิ้ง โดย ตูน (วิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

ไหนๆ แนะนำตัวกันหน่อย 

สวัสดีค่ะ ชื่อกานต์ชนิต บุญมา หรือชื่อเล่นคือตูน ค่ะ เป็นนักศึกษาจากภาควิทยาการคอมพิวเตอร์  
คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ได้เข้าร่วมโครงการฝึกงานและสหกิจศึกษา 
กับทางบริษัท บานาน่า โคดดิ้ง ตั้งแต่เดือน เมษายน ถึงเดือนกันยายน เป็นระยะเวลา 6 เดือน  

ทำไมถึงเลือกบานาน่า โคดดิ้งล่ะ ? 

ที่เลือกบริษัทนี้เพราะหาจากรายชื่อบริษัทที่ทางภาควิชาหามาให้ และเข้ามาอ่านรีวิวใน blog ของทางบริษัท ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น ได้เข้าใจวัฒนธรรมองค์กรส่วนนึง ว่าเราจะสามารถปรับตัวเข้ากับองค์กรได้ไหม และที่สำคัญที่ตั้งบริษัทก็อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย ทำให้สะดวกแก่การทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้ ในตอนแรกที่ส่งเอกสารการสมัคร หรือ resume ต่าง ๆ นั้น ทางภาควิชาได้เป็นผู้จัดการให้ และทางบริษัทได้ติดต่อมาทางโทรศัพท์ และอีเมลที่ให้ไว้ ในการสัมภาษณ์เป็นการสัมภาษณ์แบบออนไลน์ พวกพี่ ๆ ก็ถามนู้นนี่นั้นว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง เคยใช้ภาษาอะไรมาก่อนไหม  
พี่ ๆ ที่สัมภาษณ์ใจดีมาก ทำให้เราสามารถสื่อสารได้ง่าย 

ได้เริ่มฝึกงานแล้วเป็นยังไงบ้างเอ่ย ? 

ในช่วงเดือนแรก ๆ จะมีการ Bootcamp เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้กับเราก่อน โดยการปรับพื้นฐาน 
จะเริ่มตั้งแต่การติดตั้ง Tools ต่าง ๆ, Ruby on Rails Framework, WSL2 โดยที่บริษัทนี้จะใช้ Linux ในการทำงาน  
ซึ่งเพื่อนที่ฝึกงานด้วยกัน และหนูเองใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ทำให้อาจจะมีปัญหาติดขัดบ้างในการลงเครื่องมือต่าง ๆ แต่พี่ ๆ ก็ช่วยกันแก้ปัญหานี้ จากนั้นก็ได้เรียนรู้การใช้งาน Ruby on Rails Framework, JavaScript, TypeScript, OOP เบื้องต้น, Test Driver Development, Unit Testing โดยใช้ Rspec และ Heroku ในที่นี่อาจจะบอกเล่าได้ไม่หมดว่าได้เรียนรู้ประสบการณ์อะไรบ้าง แต่ที่จะได้แน่นอนเลยก็คือการทำงานเป็นทีม การสื่อสารกับผู้อื่น การเข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมาย  

มาอวดโปรเจคกันหน่อย 

เมื่อช่วงเวลา Bootcamp เสร็จสิ้น พี่ ๆ ก็เสนอให้ลองคิดโปรเจคขึ้นมา  
โดยโปรเจคที่คิดกันขึ้นมากับเพื่อนฝึกงานคนอื่น ๆ คือโปรเจค Lost N’ Found เป็นโปรเจคที่เป็นสื่อกลางการสื่อสาร  
หรือสื่อสังคมออนไลน์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการตามหาสิ่งของที่ทำหาย และตามหาเจ้าของ โปรเจคนี้ได้เริ่มทำตั้งแต่การคิด Requirements และ Pain point ซึ่งการคิดโปรเจค ไม่ได้มีแค่การเขียนโค้ดเพียงอย่างเดียว แต่ให้เราคิดถึง 
ในด้าน Business ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้นอกเหนือจากการเรียนในมหาวิทยาลัย ในช่วงระหว่างการพัฒนาโปรเจค Lost N’ Found ก็ได้พี่ ๆ มาช่วยเหลือในการพัฒนาส่วนต่าง ๆ ถ้าหากว่าติดปัญหาอะไร ก็สามารถถามพี่ ๆ ได้  
ถ้าการเขียนโค้ดส่วนไหนที่อาจจะไม่มีประสิทธิภาพมากพอ พี่ ๆ ก็จะแนะนำการเขียนวิธีใหม่ให้ เมื่อการพัฒนาโปรเจค Lost N’ Found เสร็จสิ้น ทางบริษัทก็ได้ยื่นโอกาสให้พัฒนาโปรเจคของลูกค้า ก็ได้รับประสบการณ์ที่ตื่นเต้น 
จากการพัฒนาโปรเจคของตัวเองในอีกระดับนึง 

บานาน่า โคดดิ้งสำหรับน้องๆ เป็นยังไงบ้างนะ ? 

ในเรื่องของวัฒนธรรมองค์กร บริษัทนี้เป็นบริษัทที่สนุกได้ แต่ไม่ทิ้งงาน ถึงแม้ว่างานจะดูเยอะ หรือยากก็มีพี่ ๆ คอยช่วยอยู่เสมอ ทางบริษัทมีขนม น้ำ เครื่องดื่ม ให้แบบฟรี ๆ ทำงานกันแบบเป็นกันเอง พี่ ๆ คุยเล่นได้เหมือนกับรุ่นพี่ 
ที่สามารถปรึกษาได้ในหลาย ๆ เรื่อง 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณบริษัท บานาน่า โคดดิ้ง ที่ให้การสนับสนุนในการฝึกงานและสหกิจศึกษา ในโอกาสนี้ถือว่าได้รับประสบการณ์มากมายในด้านการพัฒนาฟังก์ชัน การเขียนโค้ด การทำการร่วมกับผู้อื่น และอื่น ๆ อีกมากมาย อยากจะบอกว่าต้องมาลองฝึกประสบการณ์กับที่นี่ด้วยตัวเอง ถึงจะได้รู้ว่าบริษัทนี้ให้อะไรหลาย ๆ อย่างมากกว่าที่คิด